กสทช.เตือน “วิทยุ-ทีวี” นำเสนอเนื้อหาเลือกตั้ง ต้องไม่ขัด ม.37
สำนักงาน กสทช. แจ้งวิทยุและทีวี ระมัดระวังการนำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ต้องไม่ขัดต่อ มาตรา 37 พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ พ.ศ.2551 กฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้ง และกฎหมายอื่นที่เกี่ยว
วันนี้ (25 ม.ค.2562) นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) เปิดเผยว่า สำนักงาน กสทช. ได้มีหนังสือด่วนที่สุด ที่ สนช. 2410/ว.3075 ลงวันที่ 25 มกราคม 2562 เรื่อง การออกอากาศรายการที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ถึงผู้ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ทุกราย ว่า ด้วยพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 ได้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 23 มกราคม 2562 โดยคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ประกาศให้วันที่ 24 มีนาคม 2562 เป็นวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ซึ่งผู้ประกอบกิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทัศน์มีบทบาทอย่างยิ่งในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนเกี่ยวกับการเลือกตั้ง เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง ไม่นำเสนอความคิด และมีความเป็นกลางทางการเมือง
ดังนั้น สำนักงาน กสทช. จึงขอให้ผู้ประกอบกิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทัศน์ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 เงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาต กฎหมายด้านความมั่นคง กฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด โดยการออกอากาศรายการที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเลือกตั้ง จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าว และต้องไม่ขัดต่อมาตรา 37 แห่ง พ.ร.บ. การประกอบกิจการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 และต้องไม่ขัดหรือแย้งกับกฎหมาย ประกาศ ระเบียบ หลักเกณฑ์ หรือเงื่อนไขที่เกี่ยวกับการประกอบกิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทัศน์ กฎหมายความมั่นคง และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
นายฐากร กล่าวว่า วิทยุและทีวี มีบทบาทสำคัญในการให้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่เป็นประโยชน์กับประชาชน หากมีการนำเสนอเนื้อหาที่เป็นการชี้นำทางความคิด และไม่เป็นกลางทางการเมือง อาจก่อให้เกิดความขัดแย้งในสังคมได้ การเสนอเนื้อหาด้วยความเป็นกลาง ไม่ชี้นำ ไม่ขัดต่อกฎหมายที่เกี่ยวข้องจะช่วยให้ประชาชนได้รับประโยชน์ ได้รับสาระที่เป็นกลางอย่างแท้จริง
สำหรับ มาตรา 37 ของ พ.ร.บ.ประกอบกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 ระบุว่า ห้ามมิให้ออกอากาศรายการที่มีเนื้อหาสาระที่ก่อให้เกิดการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือมีการกระทำซึ่งเข้าลักษณะลามกอนาจาร หรือมีผลกระทบให้เกิดความเสื่อมทรามทางจิตใจหรือสุขภาพของประชาชนอย่างร้ายแรง
ผู้รับใบอนุญาตมีหน้าที่ตรวจสอบ และให้ระงับการออกอากาศรายการที่มีลักษณะตามวรรคหนึ่ง หากผู้รับใบอนุญาตไม่ดำเนินการ ให้กรรมการซึ่งคณะกรรมการมอบหมายมีอำนาจสั่งด้วยวาจา หรือเป็นหนังสือให้ระงับการออกอากาศรายการนั้นได้ทันที และให้คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวโดยพลัน
ในกรณีที่คณะกรรมการสอบสวนแล้วเห็นว่า การกระทำดังกล่าวเกิดจากการละเลยของผู้รับใบอนุญาตจริง ให้คณะกรรมการมีอำนาจสั่งให้ผู้รับใบอนุญาตดำเนินการแก้ไขตามที่สมควร หรืออาจพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตก็ได้
ที่มาข้อมูล : http://news.thaipbs.or.th/content/277256?fbclid=IwAR1xGlNW4GsM4OTo7Pu3LmflJdEKcJpwp_f_5FAqDtGk3p1uGBVcbsiB-HM