สืบเนื่องจากสถานการณ์ความรุนแรงชายแดนไทย-กัมพูชาอันเกิดจากกรณีข้อพิพาทในพื้นที่ชายแดนบริเวณปราสาทพระวิหาร และการขอขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก จนนำไปสู่การชุมนุมและยื่นข้อเสนอต่อรัฐบาล ซึ่งข้อเสนอดังกล่าว รัฐบาลไม่ตอบรับในประเด็นการยกเลิกบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลไทย-กัมพูชา ว่าด้วยการสำรวจและการจัดทำหลักเขตแดนทางบก หรือ MOU 43 กรณีพื้นที่พิพาท 4.6 ตารางกิโลเมตร รอบปราสาทพระวิหาร และการขอให้รัฐบาลถอนตัวจากคณะกรรมการมรดกโลก
สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเชื่อว่าทุกฝ่ายมีความปรารถนาดี ที่จะหาทางออกให้กับบ้านเมือง แต่อาจแตกต่างด้วยข้อมูล ข้อเท็จจริง และวิธีการปฏิบัติ จนไม่อาจหาทางออกด้วยการเจรจาได้ในขณะนี้ ขณะเดียวกันสมาคมฯ ได้รับเสียงสะท้อนจากประชาชนว่าการให้เข้อมูลของแต่ละฝ่ายนั้น ก่อให้เกิดความเกิดความสับสน และไม่อาจวิเคราะห์ข่าวสารจากข้อเท็จจริงที่นำเสนอของแต่ละฝ่ายได้อย่างถ่องแท้ เนื่องจากต่างฝ่ายต่างมีข้อเสนอ ในแต่ละเวที ซึ่งอาจนำไปสู่ความขัดแย้งที่รุงแรงขึ้น อันไม่เป็นผลดีต่อประเทศชาติบ้านเมือง ที่ยังมีสถานการณ์ที่น่าห่วงใยในหลายๆ ด้าน
สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย เห็นว่า เพื่อประโยชน์แห่งการรับรู้ข่าวสารของสังคม และก่อให้เกิดความเข้าใจในข้อมูล ข้อเท็จจริงของทุกฝ่ายอย่างรอบด้าน จึงขอจัดเวทีกลางเพื่อถกประเด็นที่ยังไม่มีความชัดเจน ในกรณีพิพาทเรื่องพื้นที่เขตแดน ไทย – กัมพูชา เพื่อให้สังคมได้รับทราบข้อมูลที่ถูกต้องตรงกัน อันจะนำไปสู่การแก้ปัญหาร่วมกันได้ในอนาคต สมาคมฯ จึงขอเรียนเชิญผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งจากรัฐบาล และพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเข้าร่วมเวทีดังกล่าว โดยหวังว่าจะได้รับการตอบรับจากทุกฝ่ายด้วยดี.
13 กุมภาพันธ์ 2554