ตามที่ปรากฎเป็นข่าวอย่างต่อเนื่องในระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมาว่า ได้มีความพยายามของบุคคลและกลุ่มบุคคล ซึ่งมีอำนาจอยู่ในคณะรัฐบาล ในการเข้ามาแทรกแซงการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน โดยเฉพาะสื่อวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ ที่ทั้งหมดอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานราชการ และล่าสุด ได้ปรากฏหลักฐานชัดเจนว่ากองทัพบกได้มีหนังสือเวียนที่ กห ๐๔๐๖.๑๒(สลก.)/๓๑๖ ลงวันที่ ๒๙ มิถุนายน ๒๕๔๔ ความว่า “ด้วยปรากฎว่า มีผู้จัดรายการบางรายการของสถานีวิทยุกระจายเสียงกองทัพบกได้วิจารณ์การทำ งานของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐบาล จึงให้สถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ในสังกัดกองทัพบก ระมัดระวังการเสนอข่าวเกี่ยวกับการเมือง และนักการเมือง การเสนอข่าวเกี่ยวกับนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ให้เสนอในลักษณะสร้างสรรค์ และช่วยประชาสัมพันธ์นโยบายและมาตรการต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาของรัฐบาล…”
กลุ่มองค์กรวิชาชีพสื่อมวลชน นักวิชาการและองค์กรพัฒนาเอกชนตามรายชื่อท้ายแถลงการณ์ฉบับนี้ มีความเห็นร่วมกันว่าการกระทำของกองทัพบกดังกล่าว และการเข้ามาแทรกแซงการทำงานของสื่อมวลชนของด้วยวิธีการต่างๆของรัฐบาลเป็น การละเมิดรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.๒๕๔๐ ที่ให้การรับรองสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชนผ่านสื่อมวลชน ตามมาตรา ๔๐ และการรับรองเสรีภาพในการเสนอข่าวและแสดงความคิดเห็นของผู้ประกอบวิชาชีพ สื่อมวลชนทั้งที่ปฏิบัติหน้าที่ในสื่อของรัฐและเอกชนตามมาตรา ๔๑ โดยขอเรียกร้องให้รัฐบาลในฐานะฝ่ายบริหารที่มีอำนาจในการกำกับดูแลสื่อของ รัฐดำเนินการดังต่อไปนี้
๑) ยุติการแทรกแซงปิดกั้นการเสนอข่าวและเสดงความคิดเห็นที่หลากหลาย และใช้สื่อมวลชนของรัฐเป็นเครื่องมือในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผลงานของรัฐบาล โดยไม่คำนึงถึงหลักการที่ว่าสื่อของรัฐเป็นสมบัติของประชาชน ไม่ใช่กระบอกเสียงของรัฐบาลใด รัฐบาลหนึ่ง
๒) แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนและโปร่งใส ในการผลักดันให้สื่อวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ได้รับการปฏิรูปไปสู่ ความเป็นสื่อของประชาชนตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญโดยเร็ว
สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย
สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย
เครือข่ายนักวิชาการเพื่อการปฏิรูปสื่อ
คณะทำงานติดตามมาตรา 40
3 กรกฎาคม 2544