ศธ.ได้กรอบใหญ่เรียนฟรี15ปี

ไม่เก็บ”ค่าเทอม-ตำรา-อุปกรณ์-ชุด-กิจกรรม” “จุรินทร์”ยาหอมองค์การค้าฯให้พิมพ์หนังสือ

เมื่อวันที่ 7 มกราคม นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยผลประชุมผู้บริหารระดับสูงของ ศธ.เมื่อเร็วๆ นี้ว่า ได้หารือการดำเนินงานนโยบายเรียนฟรี 15 ปี อย่างมีคุณภาพ ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลที่จะเริ่มในปีการศึกษา 2552 โดยเห็นชอบว่าจะให้ฟรีเด็กทุกคนที่เรียนอนุบาลถึงมัธยมศึกษาตอนปลาย และหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ใน 5 รายการ ประกอบด้วย 1.ค่าเล่าเรียน 2.ตำราเรียน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ 3.อุปกรณ์การเรียน 4.เครื่องแบบนักเรียนโดยให้ฟรี 2 ชุดต่อคนต่อปี และ 5.กิจกรรมพิเศษ ซึ่งจะพิจารณาอีกครั้งว่าอุปกรณ์การเรียนและกิจกรรมอะไรบ้างที่อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ศธ.ที่จะไม่เก็บค่าใช้จ่าย อย่างไรก็ตาม ได้มอบหมายให้แต่ละองค์กรบริหารหลักที่มีสถานศึกษาในสังกัดไปจัดทำรายละเอียด รวมทั้งงบประมาณที่จะใช้ เพื่อมาพิจารณาร่วมกันในวันที่ 12 มกราคมนี้

“เด็กที่เรียนอยู่ในชั้นอนุบาล 1-ม.ปลาย และ ปวช. จะได้รับสิทธิฟรีค่าใช้จ่ายทั้ง 5 รายการทุกคน แต่หากเด็กคนใดจะไม่ขอใช้สิทธิก็ไม่เป็นไร สามารถทำได้ ถือเป็นการช่วยประหยัดงบประมาณ ส่วนเรื่องอาหารกลางวันและปัญหาของโรงเรียนขนาดเล็กที่ได้รับงบฯอุดหนุนรายหัวน้อย เป็นเรื่องที่ ศธ.จะต้องแก้ไขต่อไป แต่ไม่อยากให้นำมารวมเป็นเรื่องของการจัดการศึกษาฟรีที่ทุกคนต้องได้รับ” รัฐมนตรีว่าการ ศธ.กล่าว และว่า สำหรับงบฯที่จะใช้จัดการศึกษาฟรีใน 5 รายการดังกล่าว เบื้องต้นจะเกลี่ยจากงบฯปี 2552 และเจียดมาจากงบฯกลาง

วันเดียวกัน นายจุรินทร์กล่าวมอบนโยบายและรับฟังปัญหาการดำเนินงานของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ที่สถาบันพัฒนาครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา (สถาบันวัดไร่ขิง) ว่า เรื่องการแก้ปัญหาหนี้สินครูเป็นนโยบายของรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐบาลอยู่แล้ว เท่าที่ทราบไม่ได้มีเฉพาะครูที่เป็นหนี้สินเท่านั้น แต่ยังมีครูที่มีเงินออมรวมทั้งประเทศเป็นจำนวนมากประมาณ 400,000 ล้านบาท แต่ส่วนใหญ่คนจะไม่ทราบ เพราะภาพของครูเป็นหนี้จะเด่นชัดกว่า อย่างไรก็ตาม รัฐบาลมีนโยบายจะแก้ปัญหาหนี้สินของคนทั้งประเทศด้วยการปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อนำไปสู่การลดเงินต้น หรือยืดระยะเวลาชำระหนี้ หรือทั้งสองอย่าง โดยตนจะเร่งผลักดันให้เร็วขึ้น รวมทั้งจะเร่งรัดการจัดตั้งกองทุนพัฒนาคุณภาพชีวิตครู เพื่อดำเนินภารกิจการแก้ปัญหาหนี้สินครู

รัฐมนตรีว่าการ ศธ.กล่าวต่อว่า สำหรับปัญหาหนี้สินขององค์การค้าของ สกสค. ถือเป็นการบ้านข้อใหญ่ของตนและผู้บริหาร สกสค.ที่ต้องร่วมกันคิดว่า จะทำอย่างไรให้องค์การค้าฯผ่านพ้นวิกฤตไปได้ ซึ่งจากรายงานทราบว่ามีปัญหาหนี้สินจากเดิม 3,200 ล้านบาท ลดลงเหลือ 2,500 ล้านบาท ซึ่งแม้จะลดลงไม่มากแต่ก็เป็นแนวโน้มที่ดี อย่างไรก็ตาม ตนมองลู่ทางที่จะบรรเทาปัญหาให้กับองค์การค้าฯจากผลพวงของนโยบายเรียนฟรี 15 ปี อย่างมีคุณภาพ เกี่ยวกับการจัดพิมพ์หนังสือเรียน ซึ่งจะช่วยลดปัญหาหนี้สินให้กับองค์การค้าฯ โดยไม่ทำลายหลักธรรมาภิบาลทางธุรกิจและการบริหารราชการแผ่นดิน โดยขอให้องค์การค้าฯกำหนดทิศทางและแผนงานที่เป็นรูปธรรมมานำเสนอด้วย

นายบำเรอ ภานุวงศ์ ผู้อำนวยการองค์การค้าของ สกสค. กล่าวว่า ขณะนี้องค์การค้าฯมีความพร้อมสนองนโยบายเรียนฟรี 15 ปีของรัฐบาล โดยเฉพาะในส่วนของแบบเรียนฟรีที่รัฐบาลมีนโยบายจัดสรรให้กับนักเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึงมัธยมฯปลาย และการที่องค์การค้าฯได้จัดพิมพ์หนังสือเรียนให้กับ ศธ. จะช่วยประหยัดงบประมาณของรัฐได้มากเพราะราคาหนังสือเรียนขององค์การค้าฯจะถูกกว่ารายอื่นประมาณ 30% ทั้งนี้ ตนได้ให้เจ้าหน้าที่เตรียมความพร้อมเครื่องจักรเพื่อจัดพิมพ์หนังสือเรียนที่จะใช้ในปีการศึกษา 2552 แล้ว โดยจะสามารถจัดพิมพ์ได้ประมาณ 22 ล้านเล่ม ภายในเดือนมีนาคม และเริ่มทยอยจัดส่งให้โรงเรียนได้ในเดือนเมษายน และภายในเดือนพฤษภาคมทุกโรงเรียนก็จะได้รับหนังสือเรียนทั้งหมด

ผอ.องค์การค้าฯกล่าวด้วยว่า จากกรณีศาลแรงงานมีคำพิพากษาให้สำนักงาน สกสค.ปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2547 ในการปรับขึ้นเงินเดือนเงินค่าจ้างของพนักงานเจ้าหน้าที่องค์การค้าฯ ร้อยละ 3 และบวกอีก 2 ขั้น ทำให้องค์การค้าฯต้องใช้เงินปรับเงินเดือนค่าจ้างพนักงานรวมกว่า 400 ล้านบาท ซึ่งองค์การค้าฯคงไม่มีเงินที่จะนำมาจ่ายแน่นอน ดังนั้น ตนจะนำเรื่องนี้เสนอนายจุรินทร์ได้ทราบปัญหา และขอให้หาแนวทางช่วยเหลือด้วย

ด้านคุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า ในที่ประชุมผู้บริหารระดับสูงของ ศธ.ได้กรอบใหญ่ว่าจะให้ฟรีการศึกษา 15 ปี ในเรื่องใดบ้าง แต่ในรายการฟรีค่าเล่าเรียนยังต้องรอการตัดสินใจของรัฐมนตรีว่าการ ศธ. เนื่องจากในส่วนของโรงเรียนเอกชนยังคงเก็บค่าใช้จ่ายส่วนนี้อยู่ ส่วนรายการฟรีตำราเรียน จะไม่ครอบคลุมถึงแบบเรียนสำเร็จรูปที่โรงเรียนให้เด็กจัดซื้อ เพราะ ศธ.ถือว่าไม่ได้สนับสนุนอยู่แล้ว

นายชินภัทร ภูมิรัตน ปลัด ศธ.กล่าวว่า ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างการเสนอสูตรในการให้รัฐบาลสนับสนุน โดยจะยึดผู้เรียนเป็นตัวตั้ง ไม่จำกัดว่าอยู่ในโรงเรียนของรัฐหรือเอกชน แต่ในส่วนของโรงเรียนเอกชนยังสามารถเพิ่มเติมในบางส่วนที่เห็นว่าจะมีผลต่อคุณภาพการศึกษา เช่น หนังสือบางเล่มที่นอกเหนือจากการแจกฟรี ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์ที่สามารถทำได้

ที่มา หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน วันที่ 08 มกราคม พ.ศ. 2552 หน้า 22

 

แท็ก คำค้นหา