จดหมายเปิดผนึก ถึง คณะกรรมาธิการปฏิรูปการสื่อสารมวลชนและเทคโนโลยีสารสนเทศ สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.)

tbjanbct

๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๗

 

จดหมายเปิดผนึกจากสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทยและสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย                                        

ถึง คณะกรรมาธิการปฏิรูปการสื่อสารมวลชนและเทคโนโลยีสารสนเทศ สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.)

 

เรื่อง        ขอให้คณะกรรมาธิการปฏิรูปการสื่อสารมวลชนและเทคโนโลยีสารสนเทศ สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ประสานกับคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการ โทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เพื่อขอให้ระงับการพิจารณา และประกาศบังคับใช้ (ร่าง) เรื่องมาตรการส่งเสริมการรวมกลุ่มของผู้รับใบอนุญาต ผู้ผลิตรายการ และผู้ประกอบวิชาชีพสื่อสารมวลชน เกี่ยวข้อง กับกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์

 

เรียน       ประธาน รองประธาน และคณะกรรมาธิการปฏิรูปการสื่อสารมวลชนและเทคโนโลยีสารสนเทศ สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ทุกท่าน

 

ตามที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) นำ ร่างมาตรการส่งเสริมการรวมกลุ่มของผู้รับใบอนุญาต ผู้ผลิตรายการและผู้ประกอบวิชาชีพสื่อสารมวลชนที่เกี่ยวกับกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ เข้าสู่ที่ประชุมของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เพื่อเตรียมประกาศใช้นั้น

 

คณะกรรมการบริหารสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และ สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ได้พิจารณาร่างฉบับดังกล่าวโดยละเอียดแล้ว มีมติร่วมกันว่า กสทช. ยังไม่สมควรนำร่างประกาศฉบับดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาเพื่อเตรียมประกาศบังคับใช้ด้วยเหตุผล ดังนี้

 

๑. เนื่องจาก ในร่างประกาศดังกล่าว ยังมีเนื้อหาหลายส่วนที่ยังไม่มีความชัดเจนพอที่จะนำไปสู่การปฏิบัติได้จริง และอาจนำไปสู่ความขัดแย้ง และการแทรกแซงสิทธิเสรีภาพในการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนได้

 

๒. การที่จะมีการประกาศใช้ร่างประกาศฯ ดังกล่าว อาจเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญการปกครอง ฉบับชั่วคราว ปี ๒๕๕๗ ซึ่งระบุว่า สื่อสารมวลชนเป็นหนึ่งในกระบวนที่ต้องถูกปฏิรูป ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญประการหนึ่งของแนวทางการปฏิรูปประเทศ   “การกำกับดูแลกันเอง” อย่างมีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง ซึ่งถือว่าเป็นสาระสำคัญอย่างยิ่งจำเป็นต้องระดมความเห็นอย่างกว้างขวาง เพื่อนำเสนอผ่านไปยัง ผู้แทนด้านสื่อสารมวลชน ที่เข้าไปทำหน้าที่ในสภาปฏิรูปฯ ซึ่งจะมีความเป็นสาธารณะและสอดคล้องกับความต้องการของสังคมที่จะมีส่วนร่วมเข้ามากำกับดูแลในกิจการด้านสื่อสารมวลชน โดยเฉพาะกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์

 

๓. ร่างประกาศฉบับดังกล่าว อาจมิชอบด้วย “อำนาจหน้าที่ของ กสทช” เนื่องจากมาตรา ๓๙ ของพระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์พ.ศ. ๒๕๕๑ มิได้กำหนดให้ อำนาจหน้าที่ กสทช. ออกประกาศ “ตามที่คณะกรรมการประกาศกำหนด” แต่ กสทช. สามารถทำได้เพียงสนับสนุนด้วย “การส่งเสริมจากกองทุนตามมาตรา ๕๒ ” และถึงแม้ว่า มาตรา ๒๗(๑๘) ของพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ จะกำหนดให้อำนาจหน้าที่ กสทช. ในการส่งเสริมการรวมกลุ่มของผู้รับใบอนุญาตฯ แต่ก็ไม่ได้กำหนดให้อำนาจคณะกรรมการในการประกาศกำหนด ขณะที่มาตรา ๒๗ (๒๔) ให้อำนาจในการ “ออกระเบียบ ประกาศ หรือคำสั่งอันเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของ กสทช.” แต่ มาตรา ๓๙ ของพระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์พ.ศ. ๒๕๕๑ ก็มิได้ให้อำนาจ กสทช.ไว้ ทั้งยังระบุแนวทางให้กับ กสทช. ในวรรคท้ายว่า “องค์กรตามวรรคหนึ่งที่มีการจัดทำมาตรฐานทางจริยธรรม คณะกรรมการอาจให้การส่งเสริมจากกองทุนตามมาตรา ๕๒ ก็ได้”

 

สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และ สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย เข้าใจถึงความปรารถนาดี ของ กสทช. ในเรื่องมาตรการส่งเสริมการรวมกลุ่มของผู้รับใบอนุญาต ผู้ผลิตรายการ และผู้ประกอบวิชาชีพสื่อสารมวลชนเกี่ยวข้องกับกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ แต่เนื่องจาก สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และ สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย มีความเห็นว่า ร่างประกาศดังกล่าวอาจจะละเมิดต่อรัฐธรรมนูญการปกครองชั่วคราว ปี ๒๕๕๗ และอาจจะขัดแย้งกับอำนาจหน้าที่ของ กสทช. และเพื่อให้สอดคล้องต่อกระบวนการปฏิรูปประเทศตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญการปกครองชั่วคราว พ.ศ. ๒๕๕๗

 

สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และ สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย จึงขอเสนอให้ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งขาติ ระงับการพิจารณาร่าง เรื่องมาตรการส่งเสริมการรวมกลุ่มของผู้รับใบอนุญาต ผู้ผลิตรายการ และผู้ประกอบวิชาชีพสื่อสารมวลชน เกี่ยวข้องกับกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ ออกไปก่อนและรอให้สภาปฏิรูปแห่งชาติ ดำเนินการการปฏิรูปประเทศให้เกิดความชัดเจน รวมไปถึงการปฏิรูปสื่อ เมื่อถึงเวลานั้นจึงสมควรที่จะนำร่างประกาศนี้มาพิจารณาดำเนินการว่าจะประกาศใช้หรือไม่

 

สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย

สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย

 

แท็ก คำค้นหา