รัฐบาลคอมมิวนิสต์เวียดนามเริ่มมาตรการปฏิรูปสื่อสิ่งพิมพ์ครั้งใหญ่ ที่อาจทำให้นักข่าวและพนักงานในวงการสื่อราว 10,000 คนต้องตกงาน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม เมื่อวันที่ 26 ก.ย. โดยอ้างข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ “ตวย เตร” หนึ่งในสื่อกระบอกเสียงของรัฐบาลเวียดนาม ว่าจำนวนสำนักพิมพ์ในประเทศเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่า เป็น 1,100 แห่ง ภายในระยะเวลาเพียง 15 ปี สื่อมวลชนจึงมีช่องทางเผยแพร่ข้อมูลที่ “ส่งผลกระทบเชิงลบ” ต่อการรับรู้ของประชาชนมากขึ้น

กระทรวงข้อมูลและการสื่อสารของเวียดนามจึงดำเนินการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ ปฏิรูปการทำงานของสื่อสิ่งพิมพ์ในประเทศ ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากสภาให้เป็นกฎหมายเมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา โดยกรอบระยะเวลาของโครงการคือต้องแล้วเสร็จภายในปี 2563 แม้ยังไม่มีการเปิดเผยอย่างละเอียดว่า สำนักพิมพ์และสื่อออนไลน์กี่แห่งต้องปิดตัวด้วยผลจากกฎหมายฉบับนี้ แต่รายงานของตวย เตร ระบุว่า ผู้สื่อข่าวราว 4,000 คน และพนักงานของสำนักพิมพ์ในสาขาอื่นอีกราว 6,000 คน อาจต้องออกจากตำแหน่ง

ทั้งนี้ กฎหมายของเวียดนามที่เกี่ยวข้องกับสื่อสารมวลชนมีความคล้ายคลึงกับของจีน คือไม่อนุญาตให้มีการแปรรูปรัฐวิสาหกิจทุกแห่งในประเทศ และองค์กรด้านสื่อสารมวลชนทุกแห่ง ทำให้ผู้บริหารระดับสูงและบรรณาธิการของสำนักพิมพ์ต้องได้รับการอนุมัติจาก พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามก่อนรับตำแหน่ง อย่างไรก็ตาม รัฐบาลกำลังเผชิญกับ “ความท้าทาย” จากสื่อออนไลน์ที่เพิ่มจำนวนและได้รับความนิยมจากประชาชนขึ้นอย่างต่อ เนื่อง“