ยันไม่เคยเกี่ยวข้องเหตุการณ์ 6 ต.ค. มีคนตายแค่คนเดียว ถอดคำต่อคำ ‘สมัคร สุนทรเวช’ ให้สัมภาษณ์ซีเอ็นเอ็น’ระบุไม่เคยเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ 6 ต.ค. อ้างมีคนตายแค่คนเดียว ย้อนถามเป็นขวาจัดผิดตรงไหน คุยหากผิดจริง ชีวิตทางการเมืองมาไม่ไกลถึงขนาดนี้แน่
‘มติชน ออนไลน์’ถอดคำพูด’สมัคร สุนทรเวช’เกี่ยวกับเหตุการณ์ช่วง 6 ตุลาคม พ.ศ. 2519 ผ่านการสัมภาษณ์ของผู้สื่อข่าวสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
แดน ริเว่อร์ส : มีบางคนวิพากษ์วิจารณคุณเรื่องอดีตที่ผ่านมา บางคนถึงกับบอกว่า มือคุณเปื้อนเลือด คุณจะมีความเห็นเรื่องนี้อย่างไร
สมัคร สุนทรเวช : โอ้ย ผมขอปฎิเสธหมด ผมไม่เคยเกี่ยวอะไรกับเรื่องดังกล่าว ตอนนั้นผมเป็นแค่คน
นอก
แดน : แล้วคุณอยากจะใช้โอกาสนี้ประนามสิ่งที่เกิดขึ้นในปี 2519 หรือไม่
สมัคร : มันเป็นเรื่องการเคลื่อนไหวของนักศึกษาบางราย ที่ไม่ชอบรัฐบาลนี้
ริเว่อร์ส : แต่เหตุการณ์ดังกล่าว มีประชาชนหลายสิบ หรืออาจจะหลายร้อยเสียชีวิตด้วย
สมัคร : ไม่ ไม่มีซักคนเดียว มีแต่นักศึกษากว่า 3 พันคนที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ริเวอร์ส : แต่ตัวเลขที่เป็นทางการบอกว่า มีผู้เสียชีวิต 46 คน และคนจำนวนมากบอกว่า จริง ๆ แล้วตัวเลขผู้เสียชีวิตสูงกว่านั้น
สมัคร : ไม่ สำหรับผม ไม่มีการตาย คนนึงโชคดีแค่ถูกแทง ส่วนอีกคนถูกเผา ที่ท้องสนามหลวง มีแค่คนเดียวที่ตายในวันนั้น
ริเวอร์ส : แล้วที่บอกว่าเป็นเหตุการณ์สังหารหมู่ ?
สมัคร : ไม่ ไม่เลย แต่ถ้าดูจากภาพ มีแต่นักศึกษาหญิง ชาย 3 พันคน เข้าแถวกัน พวกเขาบอกว่ามียอดตายคนตาย 3 พันคน
ริเว่อร์ส : ผู้คนบอกว่าคุณเป็นพวกขวาจัด ที่จุดชนวนสถานการณ์ในขณะนั้น
สมัคร : เป็นขวาจัดแล้วผิดตรงไหน ขวาจัดเป็นพวกสนับสนุนกษัตริย์ แต่ซ้ายจัดเป็นพวกคอมมิวนิสต์
ริเว่อร์ส : แล้วในปี 2519 คุณคิดว่า เมืองไทยเสี่ยงอันตรายที่ตกเป็นคอมมิวนิสต์หรือเปล่า ?
สมัคร : เอ่อ มีคนหนึ่งชื่อนาย’โลแม๊กซ์’ เขาเขียนหนังสือชื่อว่า ‘เมืองไทย สงครามที่มีอยู่ และจะเป็นไป’เขาบอกว่า มันเป็นเรื่องทฤษฎีโดมิโน บอกว่า มีโดมิโน 10 ตัวในแถบนี้ หากกัมพูชาเป็น เวียดนามก็จะเป็น ลาวก็จะเป็น และไทยก็จะเป็น ก็เท่ากับเป็นโดมิโน 4 ตัวแล้ว แล้วถัดจากไทย ก็จะเป็นพม่า เป็นมาเลเซีย สิงคโปร์ และต่อมาก็จะเป็นอินโดนีเซียซึ่งเป็นประเทศเกาะใหญ่ และประเทศใหญ่ต่อไป คือ ออสเตรเลีย หรือแม้แต่เกาะเล็ก ๆ อีกสองเกาะถัดไป 10 ประเทศนี้จะเป็นคอมมิวนิสต์ และไทยจะเป็นคอมมิวนิสต์ประเทศที่ 4
ริเว่อร์ส : คุณคิดว่า นี่เป็นเหตุผลแก้ตัวในการสังหารนักศึกษาผู้บริสุทธิ์ ในนามของการปกป้องประเทศจากคอมมิวนิสต์หรือเปล่า ?
สมัคร : โอ้ย แล้วใครฆ่านักศึกษา? ถ้าการต่อสู้เป็นเรื่องกองทัพ กองทัพก็มีหน้าที่จะปกป้องประเทศชาติ แล้วหากใครพยายามจะนำลัทธิคอมมิวนิสต์เข้ามาเมืองไทย มันก็ขึ้นอยู่กับกองทัพ….คุณต้องไปตรวจสอบสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต
ริเว่อรส์ : (พูดถึงเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ) แล้วก็เกิดการประท้วงต่อต้านรัฐบาลทหารขึ้นอีกครั้ง แล้วชื่อของคุณก็ถูกโยงเข้ากับเหตุการณ์นองเลือดครั้งนั้น เรื่องนี้คุณจะพูดอย่างไร
สมัคร : ตอนนั้นผมเป็นรองนายกรัฐมนตรีมา 3 ครั้ง ตอนที่ผมลาออก ผมก็มาดำรงตำแหน่งเป็นผู้ว่ากรุงเทพมหานคร คนบอกว่า โอ้ย เป็นฆาตกรมือเปื้อนเลือด เป็นผู้ว่ากรุงเทพมหานครไม่ได้ ผมก็เลยนำคดีขึ้นศาล และเมื่อถึงตอนลงคะแนนเสียง ผมกลับได้คะแนนเสียงเป็นล้าน ๆ คะแนน แล้วยังไงล่ะ?
ริเว่อร์ส : แต่นั่นไม่ได้ตอบคำถามว่า คุณเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ปี 2535 หรือไม่
สมัคร : ไม่ ไม่เลยตอนนั้น ผมไม่ได้เกี่ยวข้อง
ริเว่อร์ส : สำนึกของท่านยังชัดเจน ?
สมัคร : ถ้าผมทำอะไรผิด คงไม่ได้มาไกลถึงขนาดนี้ ผมคิดว่ามือผมสะอาด และอยู่กับมันได้ คน
ประเทศนี้รู้จักว่า ผมเป็นใคร ดังนั้นผมไม่กลัว แต่ทำไมคุณจะต้องประทับตราบาปให้ผม เพราะว่าผมไม่ชอบสื่อ? ผมคิดว่าตอนนี้ถ้าพวกเขาพูดดีกับผม ผมก็พูดดีกับเขา ถ้าเขาตะคอกใส่ผม ผมก็แค่ตะคอกเขากลับ เมื่อคุณชกผม ผมก็ชกคืน มันไม่มีข้อบัญญัติตรงไหนบอกว่า นายกรัฐมนตรีควรจะ
เป็นคนดี หรือควรจะพูดสุภาพ
ริเว่อร์ส์ : ผมหมายถึงว่า คุณเป็นคนดีหรือเปล่า แล้วคุณบรรยายตัวเองอย่างไร ?
สมัคร : บางคนต้องบรรยายตัวผม ผมบรรยายตัวเองไม่ได้ แต่สำหรับผม ถ้าผมทำอะไรผิด ผมก็มาไกลขนาดนี้ไม่ได้ แต่บางคนเกลียดผม ใช่ แต่ผมไม่ได้เกลียดพวกเขา ผมแค่รู้สึกสงสารที่พวกเขามีความรู้สึกแย่กับผม
ที่มา มติชนออนไลน์ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา 15:49:20 น.