กิตติ สิงหาปัด กับ เส้นทางชีวิตนักข่าว

ผมเป็นคนที่จะหาเงินได้มากกว่านี้นะ เช่น ได้ทำรายการเช้าก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้น แต่ผมจะไม่ได้ไปส่งลูกตอนเช้า ต้องให้คนอื่นไปส่ง แต่เมียผมคงไม่ชอบผมก็ไม่ยอม ผมอยู่อย่างนี้ก็มีรายได้ระดับหนึ่ง มีเวลาว่างพาลูกไปเที่ยว ความสุขในชีวิตมันหาได้ เราเลือกได้ว่าเราอยากจะมีชีวิตแบบไหน

สำหรับดูข่าวโทรทัศน์ กิตติ สิงหาปัด น่าจะจัดอยู่ในอันดับต้นๆ ของรายนาม คนข่าว ที่มีฝีมือและมีแฟนประจำจากรายการ “ไอทีวี ฮอต นิวส์” ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นรายการที่นำเสนอประเด็นข่าวแบบเจาะลึก ฉับไว เปิดประเด็นข่าวร้อน รวมถึงมีการสัมภาษณ์สดจากแหล่งข่าวที่ฉับไวที่สุดรายการหนึ่งของเมืองไทย

ด้วยแนวคิดและวิถีทางที่เฉพาะตัวทำให้ กิตติ สิงหาปัด และอะไรทำให้เด็กบ้านนอกที่จบเกษตรศาสตร์อย่างเขากลายเป็นหนึ่งในคนข่าวอันดับต้นๆ ของเมืองไทยได้ เขาจะมาเปิดใจในรายการ เจาะใจ ที่จะออกอากาศวันพฤหัสบดีที่ 27 กรกฎาคมนี้

“ข่าวโทรทัศน์ต้องใช้ความสามารถและใช้คุณสมบัติที่มีอยู่ให้เป็นผล” กิตติกล่าวถึงหลักคิดในการทำข่าวของเขา

“เรามีกล้อง มีดาวเทียม และมีความเร็วเป็นอาวุธ ต้องใช้ให้เกิดศักยภาพ มีข่าวอะไร คนไทยต้องรู้เดี๋ยวนั้น ทำข่าวโทรทัศน์ต้องลงทุน ให้ไปทำข่าว 1 เดือน ก็ต้องไป ส่วนหนังสือพิมพ์เขาทำมาให้คนอ่าน แต่เราเป็นโทรทัศน์ เรายังต้องมานั่งอ่านอีกไหม สำหรับข่าวที่พิมพ์ตั้งแต่เที่ยงคืนของเมื่อวาน”

การทำข่าวโทรทัศน์สำหรับเขานั้นเป็นเรื่องที่สนุกใช้ความพยายามและความตั้งใจที่จะไปหาข้อเท็จจริงที่คนอื่นไม่มีมาให้ได้ แม้บางข่าวจะยากมากในการเข้าถึงแหล่งข่าวและสถานการณ์ แต่สำหรับนักข่าวอย่างเขา “ยิ่งยาก” ก็ยิ่งสนุกเป็นธรรมชาติของข่าวโทรทัศน์ที่เขาชอบ แต่ก็มีบางด้านที่เขาไม่ชอบเอาเสียเลย

“บางทีก็รู้นะว่าเราต้องตกเป็นเหยื่อ แต่ข่าวที่เป็นกระแสจะไม่ทำก็ไม่ได้ เพราะโลกของทีวีแขวนอยู่บนเรตติ้ง บางเรื่องเราไม่ชอบแต่เรตติ้งดี ก็ต้องทำบ้าง แต่โดยส่วนตัวผมจะไม่ค่อยทำ ให้คนอื่นทำดีกว่า ใครอยากทำๆ ไป คนดูอยากดูให้ไปดูรายการอื่นแล้วกัน”

กิตติบอกอีกว่า ทุกวันนี้ วงการข่าวโทรทัศน์มีการแข่งขันสูงมาก แต่เป็นการแข่งขันในเชิงปริมาณมากกว่า ไม่ใช่ความหลากหลาย เป็นเพียงการเล่าข่าวไม่มีใครทำข่าวเจาะแข่งกัน ไม่มีการสนใจรับนักข่าวเก่งๆ มีแต่การแย่งชิงตัวคนอ่านข่าวเท่านั้น

เพราะมีผลงานเป็นที่ยอมรับ จึงไม่แปลกที่หลายๆ สถานีจะชักชวนให้กิตติไปร่วมงานด้วย แต่เขาบอกถ้าจะทำข่าวในสไตล์ตัวเอง “ไม่มีช่องไหนให้ผมทำได้มันส์เท่าไอทีวี” ฉะนั้น ถึงจะเอาเงินทองมากองล่อ ก็ใช้ไม่ได้กับผู้ชายอย่างเขาหรอก เพราเงินมันไม่ใช่สิ่งที่นิยามความสุขของเขา

“ผมเป็นคนที่จะหาเงินได้มากกว่านี้นะ เช่น ได้ทำรายการเช้าก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้น แต่ผมจะไม่ได้ไปส่งลูกตอนเช้า ต้องให้คนอื่นไปส่ง แต่เมียผมคงไม่ชอบ ผมก็ไม่ยอม ผมอยู่อย่างนี้ก็มีรายได้ระดับหนึ่ง มีเวลาว่างพาลูกไปเที่ยว ความสุขในชีวิตมันหาได้ เราเลือกได้ว่าเราอยากจะมีชีวิตแบบไหน”

“ผมไม่ได้เดือดร้อนเรื่องพวกนี้มาก และก็ไม่ได้อยากรวย” เขาให้เหตุผล “คุณจะมีที่ดินเป็นหมื่นไร่ไปทำไม ความสุขมันอยู่ที่ใจเราต่างหาก”

เขาบอกอีกว่ามีเงินเป็นพันๆ ล้านก็สร้างกำไรแก่ชีวิตไม่ได้เท่ามีอาชีพอย่างเขาหรอก

“การเป็นนักข่าวนี่เป็นรางวัลชีวิต ผมไม่อิจฉาเลยนะคนที่ไม่ได้เดินทางพบปะผู้คน ผมชอบเป็นนักข่าวเพราะผมได้ไปทำงานในที่ต่างๆ ได้ไปที่ที่คนทั่วไปเขาไม่ได้ไป เช่น พระราชวังมาลากันของฟิลิปปินส์ ซึ่งคุณมีเงินร้อยล้านก็เข้าไม่ได้หรอก”

“กำไรชีวิตของการเป็นนักข่าวคืออย่างนั้น”

ที่มา หน้า 25 มติชนรายวัน 27 ก.ค. 49

แท็ก คำค้นหา